Page 91 - 100
P. 91

๑๐ ทศวรรษ ที่ยั่งยืน...สู่ทศวรรษหน้าที่ท้าทาย



                      หลักสูตรที่จะใช้ในการฝึกหัดสั่งสอนนั้น  หัวหน้าพแนกโรงเรียนนางพยาบาลเป็นผู้จัดท�า  แล้วน�าเสนอ

               ผู้อ�านวยการกองบันเทาทุกข์พิจารณา  เมื่อเห็นสมควรก็จะได้ประกาศใช้เป็นครั้งคราว  โรงเรียนนางพยาบาล
               ส�านักอื่น ถ้ามีความประสงค์จะน�าหลักสูตรวิชาพยาบาลของสภากาชาดไปใช้ฝึกสั่งสอนนักเรียนก็ได้ แต่ต้องขอ
               อนุญาตต่อผู้อ�านวยการกองบันเทาทุกข์ก่อน  นักเรียนในโรงเรียนที่ใช้หลักสูตรของสภากาชาดมีสิทธิ์เข้าสอบไล่

                       ื
               ความรู้เพ่อรับประกาศนียบัตรการพยาบาลของสภากาชาดสยามได้  และสภากาชาดจะถือว่านักเรียนพวกน    ี ้
               เป็นนักเรียนนอกบ�ารุง    เนื้อหาวิชาในหลักสูตรนี้ยังคงเหมือนกับหลักสูตรในช่วงปีพุทธศักราช  ๒๔๖๐-๒๔๖๕

               เพียงแต่เพิ่มวิชาเฉพาะโรคสตรีและการคลอดบุตรในการเรียนชั้นปีที่ ๓ เนื่องจากโรงเรียนได้ท�าการเปิดสอนวิชา
               ผดุงครรภ์ขึ้นเอง โดยไม่ต้องส่งนักเรียนชั้นปีที่ ๓ ไปเรียนวิชาผดุงครรภ์ที่โรงเรียนสูติกรรม โรงพยาบาลศิริราช
               อีกต่อไป ส�าหรับวิธีการสอนยังคงใช้วิธีการบรรยายจดตามค�าบอก และการสาธิตท�าให้ดูจริงๆ ในตึกผู้ป่วย หลัง

               จากนั้นให้นักเรียนลงมือปฏิบัติกับผู้ป่วย โดยมีหัวหน้าตึกและพยาบาลรุ่นพี่คอยควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด การลง
               ฝึกงานในตึกผู้ป่วย ชั้นปีที่ ๑ ให้เรียนตอนเช้าและฝึกปฏิบัติงานตอนบ่าย ส่วนชั้นปีที่ ๒ และ ๓ ฝึกปฏิบัติงาน

               ตอนเช้า และเข้าชั้นเรียนตอนบ่าย  ชั่วโมงไหนไม่มีเรียนต้องลงฝึกปฏิบัติงานในตึกผู้ป่วยทั้งหมด นอกจากนี้ยัง
               มีการฝึกปฏิบัติงานเวรกลางวันและเวรกลางคืนด้วย  การสอบไล่ยังคงใช้เกณฑ์เหมือนเดิม  ส่วนวิชาผดุงครรภ์
               ก�าหนดว่าจะต้องท�าการคลอดบุตรไม่ต�่ากว่า ๔๐ คน ถึงจะมีสิทธิ์เข้าสอบได้ เมื่อส�าเร็จการศึกษาจะได้รับวุฒิ

               ประกาศนียบัตรวิชาพยาบาลและการผดุงครรภ์  สามารถขึ้นทะเบียนประกอบโรคศิลปะสาขาการพยาบาล
               ชั้น ๑ ได้ตามกฎหมาย



                      นอกจากนี้ระเบียบการโรงเรียนนางพยาบาลฯ  พุทธศักราช  ๒๔๖๗  ยังก�าหนดรายละเอียดเพิ่มเติมใน
               ประเด็นส�าคัญ อาทิ



                      การสอบไล่  ผู้ที่จะเข้าสอบไล่  ต้องได้เล่าเรียนวิชาจบหลักสูตรของสภากาชาดสยามตามที่ก�าหนดไว้

               และได้ฝึกหัดท�างานในโรงพยาบาลที่สภากาชาดสยามได้รับรองแล้วไม่ต�่ากว่า  ๑  ปี  โดยเป็นที่พอใจของหัวน่า
               โรงพยาบาลนั้นๆ ส�าหรับนักเรียนปีที่ ๑ ต้องได้เรียนวิชาพยาบาลไม่ต�่ากว่า ๗๐ ใน ๑๐๐ และต้องได้ท�าการ
               ฝึกหัดไม่ต�่ากว่า  ๕๐  ใน  ๑๐๐  ของเวลาที่ได้ก�าหนดไว้  ส่วนนักเรียนปีที่  ๒  ต้องได้เรียนวิชาไม่ต�่ากว่า  ๖๐

               ใน ๑๐๐ และต้องได้ท�าการฝึกหัดไม่ต�่ากว่า ๗๐ ใน ๑๐๐ ของเวลาที่ได้ก�าหนดไว้ การจ่ายนักเรียนไปท�าการ
               นอกหน้าที่  เช่น  ในการบรรเทาทุกข์  ในการเรี่ยรายเงิน  ให้นับว่าเป็นการฝึกหัดด้วย  และต้องมีแต้มความ

               ประพฤติไม่ต�่ากว่า ๖๐ ใน ๑๐๐


                      การออกข้อสอบ  เมื่อผู้อ�านวยการกองบรรเทาทุกข์สั่งตั้งกรรมการสอบไล่ขึ้นแล้ว  บรรดาครูจักต้องท�า

               ข้อสอบ (ค�าถาม) ในวิชาที่ตนสอน ส่งให้ประธานกรรมการไม่ต�่ากว่า ๑๐ ข้อ ข้อสอบนี้ต้องถือว่าเป็นความลับ
               และให้มีกรรมการเลือกข้อสอบ  ๒  นาย  ซึ่งไม่ใช่ครูผู้ออกข้อสอบ  ส่วนการคุมนักเรียนในเวลาสอบ  ประธาน

               กรรมการจะเป็นผู้ก�าหนด ซึ่งกรรมการผู้คุมสอบต้องไม่ใช่ครูหรือเจ้าของวิชาที่สอบ









                                                             90
   86   87   88   89   90   91   92   93   94   95   96