Page 592 - 100
P. 592

วิทยาลัยพยาบาลสภากาชาดไทย



                          “...เวลา ๒๒.๐๐ น. ทุกคนต้องปิดไฟนอน ถ้ายังไม่นอนจะต้องน�าสิ่งของที่ต้องการท�า ให้ไปอยู่ที่ซึ่งดวงไฟ

                   เปิดให้  หรือจะนั่งนอนตากอากาศที่สนามภายในเขตของโรงเรียนร่วมกับเพื่อนหรือพี่  พอจะท�าให้คลายความเหงา
                                                                                                   �
                                 ี
                                                                        ึ
                   ลงได้บ้าง เพราะพ่ๆ ส่วนมากจะเห็นใจในความรู้สึกของผู้มาใหม่ ซ่งยังไม่เคยชินกับสภาพแวดล้อม สาหรับข้าพเจ้า
                   ไม่มีปัญหาใดๆ  เพราะก่อนจะมาอยู่โรงเรียนพยาบาล  เคยเป็นนักเรียนประจ�าที่โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์
                                                           ื
                   มาแล้ว  พ่ๆ  จะชวนคุยถามประวัติส่วนตัวหรือคุยเร่องสนุกๆ  ด้วยความย้มแย้มแจ่มใส  วาจาไพเราะน่าฟัง  บางคน
                                                                             ิ
                           ี
                   จะน�าของขบเคี้ยวมาแจกกัน ครั้นถึงเวลาพอสมควรต่างก็แยกย้ายกลับห้องพักของตน...”

                                                                         ี
                          “...ในสมัยก่อนหอพักไม่มีมุ้งลวด  เวลานอนต้องกางมุ้ง  รุ่นพ่จะต้องสอนวิธีเหน็บมุ้งให้กับน้องปีท่  ๑  ก่อน
                                                                                                      ี
                   ใครท�าไม่สวยไม่ได้ คุณครูจะต�าหนิ...” (นางสาวพิศวง พุทธศิริ อดีตหัวหน้าพยาบาล โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์,
                   ศิษย์เก่าพยาบาลสภากาชาดไทย รุ่น ๔๘)



                                                           ่
                                                           �
                                                                       ี
                                                                                                  �
                          “...  การเป็นพยาบาลน้นมิใช่อาชีพท่ตาต้อยอย่างท่บางคนเข้าใจ  แต่เป็นอาชีพท่ทาแต่บุญกุศล
                                                                                                 ี
                                                          ี
                                              ั
                   เสียสละ แต่ถึงกระนั้นก็ดี วิชาชีพการพยาบาลของเรา ถ้าเทียบกับอย่างอื่นแล้วยังมีภาษีกว่ามากที่เรามีเกียรติสูง
                   ภาคภูมิใจตัวของเราเองว่าได้ท�าประโยชน์แก่ผู้อื่น และมีงานรอเราอยู่...” (ท่านผู้หญิงถวิลหวัง ทุติยะโพธิ ละคร
                   ตัวเดียว, ๒๕๑๗, ๒๔)
                          “...สิ่งที่ได้จากการเรียนพยาบาลคือความอดทน  ความมีน�้าใจช่วยเหลือผู้อื่น  แม้ไม่มีทรัพย์ก็ช่วยด้วย
                   วาจา  ได้น�าความรู้มาเลี้ยงดูอบรมลูกให้เป็นคนดี  มีความเมตตาช่วยเหลือสังคม  ร�าลึกถึงพระคุณของโรงเรียน
                   และท่านหญิงมัณฑารพอยู่เสมอ ได้เคยบริจาคเงินในการสร้างตึก ภปร. และตึก สก. ...” (นางถาวร สุวรรณวงศ์,

                   ศิษย์เก่าปีพุทธศักราช ๒๔๖๙-๒๔๗๑, สัมภาษณ์ วันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๓๘)



                          “...รู้สึกภาคภูมิใจที่สามารถเรียนผ่านหลักสูตรนี้ไปได้ด้วยดี  แม้ว่าจะต้องปรับตัวจากชีวิตที่อิสระและ
                   สุขสบาย  มาสู่ชีวิตที่อยู่ในระเบียบ  มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่การเรียนและการฝึกปฏิบัติการพยาบาล  แต่ก็
                   มิได้ท้อถอย  กลับเพียรพยายามศึกษาเล่าเรียนและปรับทิศทางการมองความล�าบากเหนื่อยยากต่างๆ  ให้เป็น

                                                                                                      ั
                   ประโยชน์ต่อผู้อ่นและต่อตนเอง  ดังน้นจึงมีแต่ความประทับใจจากการศึกษาในโรงเรียนแห่งน้  ท้งในด้าน
                                                   ั
                                ื
                                                                                                   ี
                   ความมีระเบียบวินัย  คุณครูที่ดูแลนักเรียนอย่างเข้มงวดใกล้ชิด  แต่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ฝึกความกล้าหาญ
                   ในการเข้าพบผู้ใหญ่  ระบบความเป็นพี่น้องที่อบอุ่น  และสายสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน...”  (ท่านผู้หญิงประเทือง
                   คชภักดี จากความเรียบง่ายสู่ความสุขและความส�าเร็จของชีวิต, ๒๕๕๖, ๑๘)



                                                                                         ึ
                          “...ชีวิตนักเรียน  ๔  ปี  เราได้อะไรหลายอย่างจากการเรียนรู้  ได้ซ้งในวิชาชีพ  ซ้งในการอยู่ร่วมกันระหว่าง
                                                                              ึ
                   เพื่อน  มาจากหลายพ่อหลายแม่  แต่รู้สึกเหมือนอยู่ระหว่างพี่ระหว่างน้อง  การท�างานต้องเสียสละ  อุทิศเวลา
                   อุทิศงาน  รู้จักเอ้ออาทร  ความมีเมตตากรุณา  ดังเพลงมาร์ชพยาบาล  หล่อหลอมใจเราเข้าไปถึงกระดูก  เรารู้สึกว่า
                                ื
                   เราไม่เคยลืมสถาบัน ไม่เคยลืมเพื่อนนับจากวันนั้นถึงวันนี้...” (ประจวบ วัฒนพงศ์ศิริ, ศิษย์เก่ารุ่น ๔๙ “เสี้ยวชีวิต
                   พยาบาลชนบท” สารศิษย์เก่าพยาบาลสภากาชาดไทย, ๒๕๔๔, ๘๖)





 590                                                      591
   587   588   589   590   591   592   593   594   595   596   597